เลือดจระเข้ วานิไทย ม.เกษตร ผลิตภัณฑ์งานวิจัย เพิ่มเกล็ดเลือด เสริมภูมิคุ้มกัน ลดน้ำตาลในเลือด โปรโมชั่นพิเศษ!! เลือดจระเข้ ขนาด 30 แคปซูล และ 100 แคปซูล จัดสงฟรีทั่วประเทศ บริการเก็บเงินปลายทางฟรี สั่งซื้อโทร 089-770-4429 ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีๆกับเราได้ที่ Facebook kuwanithai หรือ Line @kuwanithai ผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้ WANITHAI สิทธิบัตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

รายการเกษตรนำไทย ออกอากาศปี 2552 ตอน แคปซูลเลือดจระเข้ อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ


ผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้วานิไทย WANITHAI สิทธิบัตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บทสัมภาษณ์ รศ.ดร.วิน เชยชมศรี ภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้คิดค้นวิจัย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลือดจระเข้ วานิไทย สิทธิบัตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มาของการวิจัย กระบวนการผลิตแคปซูลเลือดจระเข้ตลอดจนสรรพคุณของแคปซูลเลือดจระเข้ ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจาง โรคเกล็ดเลือดต่ำ โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ และโรคมะเร็ง

สวัสดีครับคุณผู้ชม พบกันเช่นเคยกับเกษตรศาสตร์นำไทยครับ วันนี้ผมจะพาคุณผู้ชมไปรู้จักกับผลงานวิจัยที่ดูแลใน เรื่องของการบำรุงสุขภาพนะครับ แต่ผลงานวิจัยชิ้นนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ตามผมไปเลยครับ ตอนนี้ผมมานั่งอยู่กับ รศ.ดร.วิน เชยชมศรี นะครับ ซึ่งเราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับ อาหารเสริม เลือดจระเข้ ฟังแล้วอย่า เพิ่งกลัวนะครับ


พิธีกร : อาจารย์ สวัสดีครับ
อาจารย์ : สวัสดีครับ
พิธีกร : เห็นโลโก้ตรงนี้ จระเข้ทั้งตัว หลายคนบอกว่ากลัว ทำไมถึงต้องเป็นจระเข้ด้วยครับ
อาจารย์ : จระเข้เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ ที่อยู่รอดถึงปัจจุบันนี้ ปัจจุบันกฎหมายอนุรักษ์ของ CITES ยอมให้สามารถซื้อขายส่งออกได้ ประเทศไทยเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นเรามีธุรกิจซื้อขาย ส่งออก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ หนัง หรือเครื่องหนังสำเร็จรูปก็ตาม แต่สิ่งที่เราเหลืออยู่คือเลือดจระเข้ที่ทำให้เกิดน้ำเสีย เราได้มีการคิดค้นที่จะเอาสิ่งดีๆ เหล่านั้นกลับมาเพิ่มมูลค่า
พิธีกร : เลือดของเค้ามีความแตกตาง หรือประโยชน์ที่ได้ นำมาสกัดเป็นอาหารเสริม อยู่ตรงไหนครับ
อาจารย์ : ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า จระเข้มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี สามารถที่จะป้องกันการติดเชื้อด้วยตัวของเค้าเอง นั่น หมายถึง น้ำเลือดที่มีสารที่เราเรียกว่า Antimicrobial peptide (AMPs) เป็นโปรตีนเส้นสั้นๆ ที่สามารถทำลายแบคทีเรีย
พิธีกร : การทำแคปซูลเลือดจระเข้ มีมานานหรือยังครับ ผลงานวิจัยชิ้นนี้
อาจารย์ : อาจารย์ได้ทุนจากสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่ปี 2544 ถ้าถึงวันนี้ก็ประมาณ 8-9 ปี ก่อนหน้านี้เราเป็นการศึกษาในเรื่องของสารต้านแบคทีเรีย เริ่มต้นมีนิสิตปริญญาโทที่จบไป พบว่ามันมีฤทธิ์ต้านดี จึงเริ่มจุดประกายการศึกษาของเราต่อมา เราพบว่าเราจะทำอย่างไรที่จะทำเลือดจระเข้นี้ให้เป็นอาหารเสริมที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราจึงได้มีการประสานงานกับทาง อ.ย. หรือที่เรียกว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ทางอ.ย. ให้คำแนะนำว่า การที่จะทำเป็นอาหารเสริม ทาง อ.ย. จะมองเรื่องความปลอดภัย ความสะอาดเป็นสำคัญ ผู้บริโภคต้องปลอดภัย 100% เราเลยมาตั้งโจทย์การวิจัยโดยได้ทุนจากสวบ. มาส่วนหนึ่ง เราศึกษาทั้งกระบวนการในการทำ ผลิตเลือดจระเข้แห้งที่สะอาด และปลอดภัย ในขณะเดียวกัน เราก็ศึกษาถึงประสิทธิภาพของเลือดจระเข้ในการที่นำไปช่วยบรรเทาหรือรักษาในสัตว์ทดลอง จุดมุ่งหมายของเลือดจระเข้ อันดับแรก คือ เรื่องของโลหิตจาง เราก็เลยทำตรงนี้และศึกษากับหนูโลหิตจาง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า เราพยายามศึกษาให้ถูกต้องตามหลัก อ.ย. และเรื่องของประสิทธิภาพในเลือดจระเข้แห้งในการที่จะทำให้หนูหายจากอาการโลหิตจาง
พิธีกร : อันนี้เราเอาหนู่มาเป็นตัวทดลองก่อน
อาจารย์ : ใช่ เราจะทำในคนได้ เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับแพทย์หรือผู้ที่จะมาศึกษาวิจัย เรามีการกระตุ้นให้หนูอยู่ในสภาวะโลหิตจาง เมื่อเรากระตุ้นไป 1 เดือน หนูจะอยู่ในสภาวะโลหิตจาง เมื่อเทียบกับตัวคอนโทรล เปรียบเทียบกับกลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 ที่เรากระตุ้นให้เค้าเป็นโลหิตจาง ใน 1 เดือนหนูควบคุมจะมีค่าฮีโมโกลบิน หรือสีที่อยู่ในเม็ดเลือดแดง 15 กรัม% แต่หนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้อยู่ในสภาวะโลหิตจางจะอยู่ที่ประมาณ 5 กว่าๆ ทั้ง 2 กลุ่ม หลังจากที่เราให้อาหาร พบว่า 1 เดือนต่อมา หนูกลุ่มที่ 2 ยังอยู่ในสภาวะโลหิตจางอยู่ แต่กลุ่มที่ 3 ที่เราให้เลือดจระเข้ พบว่าสภาวะของโลหิตจางนั้นหายไปเลย ในช่วง 30 ถึง 45 วันหรือเดือนครึ่ง จะเห็นว่าเขาปลอดภัย 100% ไม่มีปัญหา เราเลี้ยงต่อไปจนถึง 6 เดือน เพื่อดูพิษเรื้อรัง และเราพบว่า หนูเหล่านี้แข็งแรงสมบูรณ์ดี ค่าโลหิตที่เป็นตัววัดสีของเลือดขึ้นมาในระดับเท่ากันกับกลุ่มคอนโทรล ใกล้เคียงกัน ภาวะโลหิตจางหายชัดเจน

เมื่อเรากระตุ้นไป 1 เดือน หนูจะอยู่ในสภาวะโลหิตจาง เมื่อเทียบกับตัวคอนโทรล เปรียบเทียบกับกลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 ที่เรากระตุ้นให้เค้าเป็นโลหิตจาง ใน 1 เดือนหนูควบคุมจะมีค่าฮีโมโกลบิน หรือสีที่อยู่ในเม็ดเลือดแดง 15 กรัม% แต่หนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้อยู่ในสภาวะโลหิตจางจะอยู่ที่ประมาณ 5 กว่าๆ ทั้ง 2 กลุ่ม หลังจากที่เราให้อาหาร พบว่า 1 เดือนต่อมา หนูกลุ่มที่ 2 ยังอยู่ในสภาวะโลหิตจางอยู่ แต่กลุ่มที่ 3 ที่เราให้เลือดจระเข้ พบว่าสภาวะของโลหิตจางนั้นหายไปเลย ในช่วง 30 ถึง 45 วันหรือเดือนครึ่ง จะเห็นว่าเขาปลอดภัย 100% ไม่มีปัญหา เราเลี้ยงต่อไปจนถึง 6 เดือน เพื่อดูพิษเรื้อรัง และเราพบว่า หนูเหล่านี้แข็งแรงสมบูรณ์ดี ค่าโลหิตที่เป็นตัววัดสีของเลือดขึ้นมาในระดับเท่ากันกับกลุ่มคอนโทรล ใกล้เคียงกัน ภาวะโลหิตจางหายชัดเจน

พิธีกร :ตอนนั้นเราพัฒนาจากหนูตัวเล็กๆ ตอนนี้เราพัฒนาต่อยอดทดลองในคนบ้างหรือยังครับ
อาจารย์ :การทดลองในคนตอนนี้ต้องบอกว่ายัง ผลิตภัณฑ์ที่เราจดสิทธิบัตรและมีบริษัทมาใช้ ในกระบวนการที่เราจะขอขึ้นทะเบียน เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต้องมีการทดลอง 100% ในสัตว์ทดลอง ในอีก 2 ปีข้างหน้า ตอนนี้เราได้ทุนจากสภาวิจัย เพื่อศึกษาตรงนี้ ซึ่งมีหลายหัวเรื่องในนี้ หัวเรื่องที่สภาวิจัยให้เราทำ คือหัวเรื่องที่ได้กล่าวไว้ คือการทดลองในคน นั่นหมายถึงอาจารย์ต้องเร่งผลิต เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ เรามีสถานที่ผลิตเรียบร้อย ที่อ.ย.มาตรวจเรียบร้อย ภายใต้สิทธิบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดังนั้น ในเดือน ตุลาคมนี้เอง เราได้รับการยอมรับจากอ.ย. ขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเรียบร้อย
พิธีกร : ปลอดภัย สดๆ ร้อนๆ เรียบร้อย

อาจารย์ : ครับ 100% ขั้นตอนถัดมา คือนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้เสนอต่อแพทย์ที่สนใจ เข้ามาทำให้ชัดเจน
พิธีกร : ปัจจุบันนี้ยาหลายๆตัวออกมา ก็ยอมรับว่ามีผลข้างเคียงอยู่บ้าง เลือดจระเข้ตอนนี้มีการค้นพบหรือไม่ครับว่า รับประทานแล้วมีผลข้างเคียงอะไร
อาจารย์ : ผลข้างเคียงตอนนี้ที่เราศึกษาวิจัยในระดับเรื้อรัง ไม่พบว่ามีผลข้างเคียง ในหลักการแพทย์เราดูเรื่องของเนื้อเยื่อ นั่นหมายถึงว่า หลังจากจบโครงการวิจัย เราเอาเนื้อเยื่อของหนูทดลองมาดู เราพบว่าปกติหมด อีกอันคือระดับของสารเคมีในเลือด ที่เราตรวจกันคือตรวจน้ำตาล ตรวจการทำงานของตับ ไต ก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่า จะให้เกิดโรคตับ และไต อันนี้จะเห็นได้ว่า 100% ที่ว่าปลอดภัย
พิธีกร : อาจารย์รับรองตอนนี้ 100% แน่นอน ใครที่อยากจะนำไปรับประทาน ตอนนี้ก็หากันได้ คราวนี้มาถึงเรื่องของจระเข้บ้างครับ เรามีวิธีดูอย่างไรบ้างครับ เช่น อายุเกี่ยวหรือไม่ น้ำหนักตัว มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรบ้างครับ ในการที่เราจะเลือก มาสักตัว
อาจารย์ : จระเข้ที่เรานำมาใช้ในการผลิตเลือดจระเข้ จากเดิมที่ผ่านมาจะเห็นว่า จระเข้ที่เหมาะสมที่สุดในการทำอุตสาหกรรมจระเข้ เรื่องของเนื้อ หนัง คืออายุประมาณ 3-5 ปี ช่วงนี้จระเข้อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ เราเอาเค้ามาใช้ อย่างที่บอกว่ามันเป็น waste product แต่เราก็นำมาใช้ แต่ถ้าเข้าสู่วัยเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์แล้ว บางทีเราจะไม่ยุ่ง ส่วนใหญ่เราก็ปล่อยไปให้ผสมพันธุ์
พิธีกร : ในเรื่องของคุณภาพของเลือด อายุ 1 ปีกับ 3 ปี สัก 10 ปีเป็นแม่แล้ว คุณภาพจะต่างกันหรือไม่ครับ
อาจารย์ :เท่าที่ดู ไม่แตกต่างกันครับ
พิธีกร : อาจารย์ครับ ในเรื่องของสายพันธุ์ ในประเทศไทยเองก็มีหลายสายพันธุ์ สายพันธุ์น้ำจืด น้ำเค็ม มีผลบ้างหรือไม่ครับ
อาจารย์ : เท่าที่เราทราบตอนนี้ไม่มี เนื่องจากว่าในอเมริกา ออสเตรเลีย เค้าสนใจจระเข้น้ำเค็ม บ้านเค้ามีเยอะ เค้าก็ ศึกษาน้ำเค็ม อย่างในบ้านเรามีทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด มองว่าไม่แตกต่าง และโดยธรรมชาติจริงๆ สัตว์พวก งู สัตว์เลี้อย คลานใช้ได้เกือบทุกชนิด เพียงแต่ว่า ต้องสะอาด ปลอดภัย และไม่ติดเรื่องกฏหมาย
พิธีกร : คราวนี้มาถึงขั้นตอนสำคัญ เวลาที่เราได้จระเข้มาสักตัวหนึ่ง เราจะเริ่มทำการเจาะหรือผ่าเพื่อที่จะเอาเลือดออกมาอย่างไรบ้างครับ
อาจารย์ : วิธีการจับ ก็จะใช้วิธีการช็อตไฟ หรือจับสด ในงานทดลองของอาจารย์มีทั้ง 2 แบบ ในกระบวนการที่เค้าจับจระเข้ในประเทศไทย ง่ายสุดคือช็อตไฟให้เค้านิ่ง หนังยางรัดปาก แล้วก็อุ้ม พอเราเจาะเลือด เค้าก็ไม่ตาย เจาะออกไปก็เหมือนเดิม
พิธีกร : ไม่มีผล เกี่ยวกับเรื่องของความเครียด
อาจารย์ : ครับไม่มีผล พอได้จระเข้มา เรารัดยางและเจาะเลือดบริเวณแอ่งเลือดตรงหลังกะโหลก
พิธีกร : ทำไมต้องเป็นที่จุดนี้ครับ

อาจารย์ : ตรงนี้เป็นจุดที่เรารู้ว่ามีแอ่งเลือดที่สำคัญอยู่ เหมือนกับเส้นเลือดถ้าเป็นคน เราสามารถที่จะหาตรงไหนก็ได้ แต่จระเข้เรามองไม่เห็น เราได้แอ่งเดียวตรงนี้ ดูเหมือนว่าจะใกล้ แต่จริงๆแล้วไม่ได้เข้าถึงสมอง ถ้าเป็นงานวิจัยเราใช้เข็มไซริงค์เจาะ แต่ถ้าเป็น mass production เราใช้หัวเข็มที่เราออกสิทธิบัตรไปของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
พิธีกร : ขั้นตอนนี้ ไม่ได้เรียกว่าทรมานสัตว์ หรือทำให้สัตว์เจ็บปวดมากขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถเจาะ และทำ ให้เค้ามีชีวิตอยู่ได้ด้วย หลังจากที่เราได้เจาะและนำเลือดออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จระเข้พวกนี้จะไปผ่านขั้นตอนอะไรครับ
อาจารย์ : ในอดีตที่ผ่านมาจระเข้ หลังจากที่เราเจาะเลือดแล้ว จระเข้จะเข้าสู่อุตสาหกรรมจระเข้ นั่นหมายถึงทำเนื้อ ทำ หนัง ส่งออก แต่ในอีก 2 ปีข้างหน้า เราอาจจะมี product ใหม่ ที่เรากำลังพัฒนาอยู่ตอนนี้ คือจระเข้บริจาคเลือด คือไม่ทำลายชีวิต ปล่อยเขาคืนสู่บ่อเลี้ยง และถ้าเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ก็ปล่อยเค้าไปผสมพันธุ์ ออกลูกออกหลานมาเหมือนเดิม
พิธีกร : สมมุติว่าตอนนี้เราได้เลือดมา 1 ขวดแล้ว เราจะนำไปทำกระบวนการออกมาเป็นแคปซูลอย่างไร ต้องขออนุญาต อาจารย์พาไปดูกรรมวิธีการผลิตครับ
อาจารย์ : ได้ครับ

ตอนที่ 2 กรรมวิธีการผลิตแคปซูลเลือดจระเข้ วานิไทย


พิธีกร : ห้องที่อาจารย์พาไปเป็นห้องวิจัย เป็นห้องผลิตเลยหรือไม่ครับ
อาจารย์ : ครับ อันนี้เป็นห้องที่เราผลิตและได้รับอนุญาติจาก อ.ย. ให้ใช้เป็นสถานที่ผลิต และได้รับอนุญาติจากมหาวิทยาลัยเรียบร้อย เรามาเข้าห้องผลิตเลยครับ [เดินเข้าห้องผลิตยา]
พิธีกร : อันนี้เหมือนกับห้องผลิตยา
อาจารย์ : ครับ เหมือนกับห้องผลิตยาโดยทั่วไป แต่เราย่อส่วน ป้องกันไม่ให้มีสิ่งปนเปื้อน ในเรื่องของมาตรฐานการ ทำความสะอาด เราต้องควบคุม
พิธีกร : ท่านผู้ชมครับ เราจะเข้าไปดูกรรมวิธีการผลิต กว่าจะมาเป็น แคปซูลที่ให้เรารับประทานกัน ตอนนี้ต้องบอกว่า เรามีเป็นเลือดแล้ว
อาจารย์ : เลือดที่เราได้มาจะใส่ขวด หน้าห้องของเราจะมี flow chart ให้ดู กรรมวิธีของเราได้จากการเจาะ เรามาเริ่มตอนนี้ที่เราได้มาเป็นขวด เรามีการผ่านกระบวนการผ่านการพาสเจอ ไรเซชั่น ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียเบื้องต้น โดยใช้อุณหภูมิประมาณ 63 องศา สักครึ่งชั่วโมง และเข้าไปที่เครื่องอบแห้ง
หลังจากนั้นจะได้มาเป็นตัวอย่างที่แห้ง กรอบ เราก็จะนำมาทำการบด และนำมาใส่แคปซูล
พิธีกร : อันนี้เรียกว่าเป็นแบบคร่าวๆ แต่วันนี้อาจารย์จะมาสาธิตให้เราดูทุกขั้นตอนเลยนะครับ
อาจารย์ : เราเข้ามาดูขั้นตอนการผลิตครับ จากตัวอย่างที่เราได้มา จะเห็นว่าเราได้มาเป็นขวดแบบนี้
พิธีกร : หลังจากที่เราได้เจาะเลือดบริเวณท้ายทอยของจระเข้มา ได้เลือดมา และกว่าจะมาเป็นแคปซูลให้เรารับประทานกัน ขั้นตอนต่อไปทำอย่างไรครับอาจารย์
อาจารย์ : เลือดที่เราได้มาเป็น เลือดสด สิ่งที่เราต้องป้องกัน คือป้องกันการปนเปื้อนของแบคทีเรีย วิธีขั้นต้นคือการทำพาสเจอไรเซชั่น คือการอบแห้งด้วยไอน้ำ เราเซ็ทอุณหภูมิไว้ที่ 63 องศา เป็นเวลา 30 นาที อันนี้เป็นกระบวนการทั่วไป คล้ายกับการผลิตนม ซึ่งคุณค่าทางอาหารยังอยู่ครบ ก็เอาใส่ลงไปเพื่อให้ได้อุณหภูมิ
พิธีกร : 3 ขวดได้เลยนะครับ
อาจารย์ : ครับ
พิธีกร : ใช้เวลาอยู่ในตู้อบนี้ประมาณ 30 นาที
อาจารย์ : ครับ เครื่องนี้จะตั้งเวลาไว้หมดครับ พอถึงเวลาปุ๊บ เค้าก็จะตัด เราก็จะรีบเอาจาก 60 องศานี้ เข้ามาในตู้เย็น 4 องศา ขั้นตอนถัดไปคือการนำไปบด เราก็เอาไปแช่ตู้เย็นที่ -20 องศาเพื่อรอเข้าสู่เครื่อง freeze dry ต่อไป
พิธีกร :การบดเป็นอย่างไรครับ อาจารย์
อาจารย์ : ครับ เราใช้เครื่องหมุนบด เครื่องตีขนมปัง ทำให้เค้าแตกเป็นชิ้นเล็กๆ และใส่ถาด เรามีตัวอย่างที่ทำสำเร็จให้ดู นำเข้าสู่เครื่อง freeze dry เดี๋ยวเราเชิญทางนี้เลยครับ [เดินเข้าห้อง freeze dry] หลังจากที่เราทำขั้นตอนแช่ไว้ที่ -20 องศา เราจะนำเลือดทั้งหมด มาเข้าสู่เครื่อง freeze dry นี่เป็นเครื่อง freeze dry ที่เราใช้อยู่ แต่ละชั้นจะใส่ปริมาณ 5 ลิตร
พิธีกร : ในนี้ใช้ความร้อนหรือเปล่าครับ
อาจารย์ : ไม่ใช่ครับ ในนี้อุณหภูมิจะเป็น -70 องศา มีน้ำยาวิ่งแต่ละชั้น เพื่อให้แข็งเป็นน้ำแข็ง แต่อุณหภูมิรอบๆ เราเซ็ทไว้ให้ต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย เพื่อไม่ให้ส่วนของโปรตีนต่างๆเสีย คุณค่าไป ดังนั้นความแตกต่างของอุณหภูมิที่ -70 กับข้างนอกที่ไม่เกิน 30 องศา ดังนั้นตัวอย่างก็จะระเหิดเป็นน้ำ และน้ำต่างๆ ก็จะถูกจับด้วยท่อความเย็นอีกที ซึ่งต้องอยู่ในตู้ประมาณ 48 ชั่วโมง
พิธีกร : 48 ชั่วโมง 2 วัน
อาจารย์ : ครับ ตัวอย่างก็จะแห้งสนิท จากนั้นเราก็จะนำไปทำการบด และทำการบรรจุแคปซูล เดี๋ยวเราไปดูขั้นตอนการบรรจุแคปซูลกัน ซึ่งเมื่อก่อนเราใช้มือ เดี๋ยวนี้เราพัฒนาใช้เครื่องอัตโนมัติ [เดินเข้าห้องบรรจุแคปซูล] อันนี้เป็นห้องบรรจุแคปซูล เรามีการนับ และทำ QC มีการเกยกัน บิดเบี้ยว ส่วนที่ไม่สมบูรณ์ อันไหนที่ไม่ดี เราคัดออก ส่วนด้านโน้น เจ้าหน้าที่ของเราก็กำลังบรรจุผงเลือดจระเข้ที่เราบดละเอียดแล้ว เข้าสู่แคปซูล
มีการหยอดแคปซูลเข้าเครื่องอัตโนมัติ ซึ่งจะกลับหัวกลับหางเอง วันหนึ่งสามารถทำงานได้ถึงประมาณแสนเม็ด ขั้นตอนที่เค้ายิง เป็นการบรรจุแคปซูลเข้าสู่โมล ทุกขั้นตอนเรามีการควบคุมคุณภาพ เราจะมีการปรับspeed เพื่อให้ได้น้ำหนัก โดยแต่ละแคปซูลจะต้องมีการควบคุม 250 มก.ต่อแคปซูล
พิธีกร : ต่อไปจะมีการใส่ผงเลือดจระเข้บรรจุลงในแคปซูล
อาจารย์ : มีการควบคุมความเร็วและปริมาณที่ลงไป พอเสร็จแล้ว ค่าที่ได้จากแคปซูลจะมีปริมาณ 250 มก.
พิธีกร : ครับ อันนี้คือวิจัยออกมาแล้วใช่หรือไม่ครับ ว่าปกติควรรับประทานต่อวันเท่าไรครับ
อาจารย์ : เราแนะนำให้รับประทานวันละ 250 มก. หรือ 1 เม็ดต่อวันสำหรับคนที่สุขภาพยังมีเรี่ยวมีแรงอยู่ แต่ถ้ามีแรงน้อย เดินไม่ไหว ทาน 2 เม็ดก็เพียงพอก็เพียงพอต่อวัน สุดท้ายจะเป็นการนับเข้าสู่แคปซูลได้เป็น product ของเรา ตอนนี้เป็นการนับ ต่อไปเราต้องพัฒนาใช้เครื่อง ในขวดจะมีสารดูดความชื้น เพื่อป้องกันการชื้น
พิธีกร : 1 ขวดที่เราซื้อมา สามารถเก็บรักษาได้นานสักเท่าไรครับ
อาจารย์ : เรามีการศึกษาวิจัย เก็บได้ประมาณ 2 ปี
พิธีกร : ตอนนี้หลายคนคงอยากทราบ สรรพคุณหลักๆที่จะช่วย เมื่อทานเข้าไปรักษาอะไรได้บ้างครับ
อาจารย์ : สรรพคุณหลักๆ เลย 1 เดือนเห็นผลชัดในเรื่องของโลหิตจาง ถ้ามีการตรวจเลือด ตรวจเม็ดเลือดแดง หรือระดับฮีโมโกลบิน
พิธีกร : 1 เดือนคือรับประทานไปก่อน แล้วค่อยตรวจเลือดได้ อาจารย์รับประกันว่าเห็นผลชัด
อาจารย์ : ครับ
พิธีกร : มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
อาจารย์ : ครับ ที่ดีขึ้น 1 เดือน โลหิตจางดีขึ้น อาการเหนื่อย หอบ ภูมิแพ้ จะดีขึ้นตาม
พิธีกร : นอกจากโลหิตจางแล้ว ที่บางคนเป็น ไมเกรน ความเครียด เบาหวาน
อาจารย์ : ครับ เบาหวานก็ช่วยได้ จากการวิจัย และการเก็บข้อมูลของเรา ผู้ที่เป็นเบาหวาน จะช่วยให้ระดับน้ำตาลลดลงระดับหนึ่ง และแผลที่เกิดขึ้นจะหายเร็วขึ้นครับ เพราะมีการเสริมสร้างเกล็ดเลือด ให้ผลดีกับกลุ่มคนที่เป็นมะเร็ง
พิธีกร : ผมได้ยินมาว่า คนที่เป็นมะเร็ง รับประทานแล้วรู้สึกดีขึ้น อันนี้เข้าหูผมเองเลยครับ อันนี้จริงๆหรือไม่ครับ
อาจารย์ : จริงครับ อีก 2 ปีเราจะทำวิจัยให้เรื่องนี้
พิธีกร : นอกจากตัวนี้มีผลิตภัณฑ์อื่นอีกหรือไม่ครับ
อาจารย์ : มีอีกหลายตัวครับ ตอนนี้เท่าที่เราได้วิจัย ไม่ว่าจะเป็นไขมัน พวกนี้มีคุณสมบัติทางยาทั้งนั้นเลย เพียงแต่ว่ายังขาดการศึกษาวิจัย นั่นก็เป็นผลงานวิจัยในครั้งหน้าที่เราคิดจะทำ
พิธีกร : ใครที่อยากเกาะติดสถานการอาหารเสริม รับรองได้ว่ามหาวิทยาลัยเกษตร มีนักวิจยดีๆ และที่สำคัญครับ คนดูอยากจะทาน จะติดต่อได้ที่ไหนบ้างครับอาจารย์
อาจารย์ : สามารถติดต่อได้ที่อาคารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
พิธีกร : วันนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ ดร.วิน เชยชมศรีที่มาร่วมพูดคุยกับเรา พาเรามาดูสถานที่ผลิตในเรื่องของเลือดจระเข้ทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของคนไทยแท้ๆ รับรองปลอดภัย ยิ่งกว่า 100%
ท่านผู้ชมครับ วันนี้เราได้เห็นกระบวนการผลิตครบทุกขั้นตอนนะครับ ทำให้มั่นใจได้ว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ของเรานั้นได้ผลิตเลือดจระเข้ออกมาที่มีความปลอดภัย และสะอาด 100% ที่สำคัญได้ผ่านการระเหิดแห้ง ภายใต้ความเย็น เพื่อคงคุณภาพของเลือดจระเข้ไม่ให้เสื่อมสลายไป รับรองได้ว่าไม่มีสารเจือปน และไม่มีผลข้างเคียงอย่างแน่นอนครับ

ผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้วานิไทย WANITHAI สิทธิบัตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
Web Site : https://www.เลือดจระเข้มเกษตร.com
facebook : https://www.facebook.com/kuwanithai/
line : @kuwanithai Line : @kuwanithai
ปรึกษา สั่งซื้อ โทร : 089-770-4429 084-109-5666

🔥ดูรายการสินค้าโปรโมชั่นทั้งหมดได้ที่ LINE SHOPPING🔥

 

เลือดจระเข้วานิไทย สิทธิบัตร ม.เกษตรศาสตร์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

เพิ่มเพื่อน

@kuwanithai

ติดตามสินค้าผ่านทาง Facebook

เลือดจระเข้ วานิไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์